MP3 กำลังจะตาย
เป็นประโยคบอกเล่าที่ฟังแล้วไม่น่าเป็นไปได้ เพราะ MP3 เป็นไฟล์เสียงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเพลง การค้นพบ MP3 ทำให้ทุกคนเข้าถึงเพลงได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นฝันร้ายของเหล่าศิลปินด้วยเช่นกัน ด้วยความที่มันเป็นไฟล์ขนาดเล็กแจกจ่ายง่าย ทำให้มีเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ในรูปแบบ MP3 อยู่มากมายบนโลกอินเทอร์เน็
MP3 คือ ไฟล์ MPEG-1 หรือ MPEG-2 Audio Layer III เป็นการบีบอัดไฟล์เสียงรูปแบบหนึ่ง ที่ทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมมาก ในขณะที่คุณภาพยังมีความใกล้เคียงกัน เพลงในซีดี 1 แผ่น หากแปลงเป็น MP3 จะใช้พื้นที่แค่ 10% ของซีดีเท่านั้น ถูกพัฒนาโดย Fraunhofer Institute และเผยแพร่ออกมาในปี 1993 หากนับมาถึงปัจจุบัน MP3 ก็มีอายุได้ 24 ปีแล้ว ซึ่งสิทธิบัตรของ MP3 ที่ทาง Fraunhofer Institute ครอบครองอยู่ได้หมดอายุลงตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา
เกิดอะไรขึ้นเมื่อ สิทธิบัตร MP3 หมดอายุ
เมื่อ Fraunhofer Institute ไม่ได้ครอบครอง MP3 อีกต่อไป ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะพัฒนาไฟล์รูปแบบนี้ต่อ เพราะมันไม่ก่อรายได้ ไฟล์เพลง MP3 ที่คุณมีจะยังคงเล่นได้อยู่เหมือนเดิม, เครื่องเล่น MP3 ของคุณจะยังใช้งานได้ต่อไป และข่าวดี คือ ผู้ให้บริการเพลงจะไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์การใช้งาน MP3 ให้กับทาง Fraunhofer อีกต่อไป สรุปสั้นๆ คือ MP3 ยังอยู่ เพียงแต่หยุดพัฒนาเท่านั้นเอง
แล้วทำไม MP3 ถึงตาย
ทุกวันนี้คนต้องการฟังเพลงที่มีคุณภาพสูงขึ้น นอกเหนือจาก MP3 โลกนี้ยังมีไฟล์เสียงนามสกุลอื่นอีกหลายตัวที่มีคุณภาพดีกว่า MP3 อย่างเช่นไฟล์ AAC (Advanced Audio Coding) และ MPEG-H 3D Audio ซึ่งให้เสียงที่มีคุณภาพสูงกว่าหากเทียบกับ MP3 ที่บิทเรทเท่ากัน และยังมีลูกเล่นที่เยอะกว่าไฟล์ MP3 อีกด้วย
AAC ไฟล์ที่คาดว่าจะมาแทน MP3
ไฟล์ AAC ถูกพัฒนาโดยความร่วมมือจาก AT&T, Bell Laboratories, Fraunhofer IIS, Dolby Laboratories, Sony Corporation และ Nokia เป็นการบีบอัดไฟล์เสียงรูปแบบหนึ่งที่มีคุณภาพสูงและกำลังได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย
ทุกวันนี้ AAC ถูกใช้งานบน YouTube, iPhone, iPod, iPad, Nintendo DSi, Nintendo 3DS, iTunes, DivX Plus Web Player, PlayStation 3 และในมือถือ Nokia Series 40
นอกจากนี้ยังรองรับการเล่นบน PlayStation Vita, Wii, Sony Walkman MP3 series, Android และ BlackBerry นอกจากนี้ไฟล์ AAC ยังถูกนำไปใช้งานในเครื่องรถยนต์อีกด้วย
เมื่อฝ่ายหนึ่งหยุดพัฒนา ส่วนอีกฝ่ายกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายฝ่ายในอุตสาหกรรมเสียงมองว่า MP3 กำลังเข้าสู่ช่วงรอวันตายนั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น